ลักษณะทั่วไป
ท้อจัดอยู่ในพวกไม้ผลที่ชอบอากาศหนาวเย็น เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ท้อมีทั้งพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งมีผลขนาดเล็กและเปรี้ยวกว่าท้อพันธุ์ต่างประเทศ ท้อเป็นพืชในสกุล Rosaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus persica

สภาพดินฟ้าอากาศ

ท้อเป็นไม้ผลเมืองหนาวที่ขึ้นได้ดีบนพื้นที่ที่มีความสูงตั้งแต่ 3,000 ฟุตขึ้นไป สามารถปลูกได้ดีบนภูเขาทางภาคเหนือ อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 10 เซลเซียส และทนความแห้งแล้งได้ดี

พันธุ์ท้อ

การปลูกท้อในประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือมีมานานพอสมควร แต่ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พื้นเมืองเรียกว่า “แปะมุงท้อ” ซึ่งให้ผลผลิตต่ำ ผลเล็กในปัจจุบันมีพันธุ์ที่เหมาะสมและปลูกได้ผลดี ให้ผลผลิตสูงรสชาติดี พันธุ์ต่างประเทศจากสหรัฐฯ คือ ฟลอดาซัน ฟลอดาเรด และฟลอดาเบลล์ และจากไต้หวันคือหญิงคู

การขยายพันธุ์

การขยายพันธุ์ท้อนิยมเตรียมต้นตอ โดยใช้ท้อพันธุ์พื้นเมืองเป็นต้นตอ แล้วจึงติดตาหรือต่อกิ่งด้วยพันธุ์ดี โดยอาจจะเพาะต้นตอด้วยเมล็ดในแปลงเพาะชำแล้วย้ายปลูกก็ได้ ซึ่งการย้ายปลูกควรทำในฤดูหนาวซึ่งกำลังอยู่ในระยะพักตัว พอถึงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนท้อก็จะเจริญอย่างรวดเร็ว

การปลูกและการดูแล

การเตรียมพื้นที่ปลูกก็เหมือนกับไม้ผลทั่ว ๆ ไป โดยขุดหลุมขนาด 1x1x1 เมตร แล้วใช้ปุ๋ยคอก หรือเศษวัชพืชรองก้นหลุม อาจจะผสมปุ๋ยสูตร 12-24-12 ด้วยก็ได้ โดยใช้ระยะปลูก6x6 เมตร จะได้ไร่ละ ประมาณ 40-45 ต้น

การให้ปุ๋ย

การให้ปุ๋ยท้อก็เหมือนกับการให้ปุ๋ยไม้ผลทั่ว ๆ ไปโดยจะให้ 2 ครั้งต่อปี ครั้งแรกให้เมื่อท้อเริ่มออกดอกโดยให้ปุ๋ย 13-13-21 จะให้ปุ๋ยในอัตราแล้วแต่อายุของท้อ อาจจะแบ่งให้เป็นหลาย ๆ ครั้งก็ได้ อีกครั้งหนึ่งให้หลังเก็บเกี่ยวผลและตัดแต่งกิ่งโดยให้สูตร 15-15-15 วิธีการให้โดยพรวนดินบริเวณรอบทรงพุ่มแล้วหว่านปุ๋ยตามแนวที่พรวนและภายในรัศมีทรงพุ่มด้วย หลังจากนั้นก็ให้น้ำตามบริเวณที่โรยปุ๋ยนั้น

การตัดแต่ง

ทำในฤดูหนาวที่ท้อกำลังพักตัว โดยทำทรงต้นแบบตรงกลางโปร่ง เมื่อเริ่มปลูกต้องตัดยอดให้เหลือลำต้นสูง 60 เซนติเมตร ตัดกิ่งแนวด้านล่าง ๆ ออก ส่วนแนวบนตัดให้เหลือ 1-2 ตา เมื่อต้นแตกกิ่งก้านสาขาแล้วให้เหลือกิ่งที่ดี 3 กิ่ง ไว้เป็นกิ่งโครงสร้างต่อมาเมื่อต้นพักตัวให้ตัดทอนกิ่งโครงสร้างนี้ประมาณ 1/3 เพื่อให้แตกแขนงออกไปอีกและเป็นพุ่มแจ้

การปลิดผล

ทำในช่วงที่แน่ใจว่าท้อติดผลแล้ว คือประมาณ 5-8 สัปดาห์หลังดอกบานเต็มที่ การปลิดควรให้ผลเหลือบนต้นมีระยะห่างกัน 15-20 เซ็นติเมตร แต่ต้องดูถึงความแข็งแรงของต้นและต้องดูจำนวนใบด้วย

การให้ผล

หลังจากปลูก 3 ปีจะเริ่มให้ผล โดยจะออกดอกตอนปลายฤดูฝนต่อฤดูหนาว และจะให้ผลในระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม แต่จะให้ผลดีเมื่ออายุ 4-5 ปีไปจนถึงอายุไม่น้อยกว่า 10 ปี

ศัตรูท้อ

โรค ได้แก่ peach leafcurl, Brown rot scab และ rust แต่ปกติท้อมักไม่ค่อยเป็นโรค
แมลง ที่สำคัญคือแมลงวันผลไม้ ซึ่งจะทำลายผลท้อเมื่อแก่หรือเริ่มสุก

การป้องกันกำจัด
  1. ทำการพ่นยาฆ่าแมลงอย่างดีสม่ำเสมอ ตั้งแต่ผลเริ่มแก่ ยาที่ใช้ เช่น ดีลดรีน พาราไธออน
  2. อารใช้เหยื่อพิษล่อให้แมลงวันทองมากิน (สารเมททิล ยูจินอล)
  3. ใช้ถุงห่อผลในระยะใกล้สุก
  4. เก็บผลที่ร่วงหล่นบริเวณโคนต้นออกไปฝังหรือทำลายเสีย
ประโยชน์และตลาด
ท้อเป็นไม้ผลที่สามารถจะนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง นอกจากที่ใช้สำหรับรับประทานสดแล้ว ยังแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์บางอย่างได้อีกด้วย เช่น ทำท้อดอง ท้อลอยแก้ว ท้อแห้งหรือแช่อิ่ม เป็นต้น สำหรับตลาดนั้นในเมืองไทยมีที่กรุงเทพฯ ราคาประมาณ 50-60 บาท ส่วนในต่างประเทศมีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนิยมท้อ

เอกสารอ้างอิง
  1. โอฬาร ตัณฑวิรุณห์ การปลูกท้อ วารสารส่งเสริมการเกษตร 2520
  2. เอกสารวิชาการ งานศึกษาไม้ผล สำนังานโครงการเกษตรที่สูง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กทม.
  3. ปวิณ ปุณศรี แนะนำโครงการไม้ผลเมืองหนาว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กทม.

Last Update : 1/07/1998
จัดโฮมเพจโดย :สำนักบริการคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์